มูลค้างคาว
มูลของมูลค้างคาวมีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียม) ในปริมาณที่สูงกว่ามูลของสัตว์ชนิดอื่น และมีธาตุอาหารรองครบ จึงเป็นที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในดิน หรือใช้พ่นทางใบ ในด้านเกษตร โดยมีธาตุฟอสฟอรัสสูงมากเป็นพิเศษ ช่วยเร่งให้พืชติดดอก ออกผล ได้ดีขึ้น เหมาะกับไม้ดอกและไม้ผล ในมูลค้างคาวมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ (เชื้อรา แบคทีเรีย และ แอคติโนมายซีส) ในการช่วยย่อยสลายเศษวัสดุในดินให้กลายเป็นปุ๋ย มูลค้างคาวเหมาะสำหรับทำเกษตรอินทรีย์มาก เพราะมีธาตุอาหารทัดเทียมกับปุ๋ยเคมีประโยชน์ของมูลค้างคาว
1. มูลค้างคาว มีธาตุอาหารครบทั้ง 13 ชนิด ที่พืชต้องการจากทางดิน คือ ไนโตรเจน ,ฟอสฟอรัส , โปแตสเซี่ยม , แคลเซี่ยม, แมกนีเซี่ยม , กำมะถัน , โบรอน , เหล็ก, แมงกานีส , สังกะสี , โมลิบดินั่ม , ทองแดง และ คลอรีน2. มูลค้างคาวมีธาตุฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีบทบาทในการเร่งให้พืชติดดอก ออกผล ได้ดีขึ้น เหมาะเป็นพิเศษกับไม้ดอก และไม้ผล
3. มูลค้างคาวช่วยให้ผลผลิต ปริมาณ ขนาด คุณภาพ น้ำหนัก รสชาติ และสีสัน ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะไม้ดอกและไม้ผล
4. มีปริมาณความเข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงกว่ามูลสัตว์ชนิดอื่นๆ หรือในบรรดาปุ๋ยอินทรีย์โดยทั้วไป
5. การใช้มูลค้างคาวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เชื้อแบคทีเรียทำงานได้ดีขึ้น เป็นประโยชน์แก่พืชทางอ้อม ทำให้เกิดการสลายตัวของอินทรีย์สาร เปลี่ยนไปเป็นธาตุอาหารของพืชได้ง่ายขึ้น
6. ช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน กระตุ้นการแตกราก ทำให้การดูดธาตุอาหารและน้ำจากดินเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการเจริญเติบโตต่อพืช จึงเหมาะกับพืชทุกชนิด
7. ช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ของพืช ทำให้พืชแข็งแรง ขั้วเหนียวบำรุงต้นให้เจริญเติบโต(ออกดอก,ออกผลมาก) และช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย
8. ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย ปรับการระบายน้ำและอากาศในดินและปรับสภาพความเป็นกรด – ด่างให้เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของพืช
9. มูลค้างคาวช่วยโอบอุ้มและพยุงธาตุสารอาหารต่างๆ เอาไว้ เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างช้าๆ ต่อเนื่องยาวนานก่อนถูกน้ำชะล้างละลายลึกลงดิน
10. มีกรดฮิวมิค,แร่เพอไลต์ ที่ช่วยในการจับธาตุอาหารและปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืช